สวัสดีคร้า...เพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ Saow .....ในโลกของเราใบนี้มีความลับมากมายที่ยังไม่มีใครรู้ ส่วนในโลกของฉัน...ฉันอยากให้คุณเข้ามาสัมผัส

ในโลกของเราใบนี้มีความลับมากมายที่ยังไม่มีใครรู้ ส่วนในโลกของฉัน...ฉันอยากให้คุณเข้ามาสัมผัส




[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]


ก็เปรียบชีวิตของเรา จงตั้งใจทำสิ่งตนเองใฝ่ฝันให้ประสบความสำเร็จให้ได้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------









--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]
                                                    





บทความคอมพิวเตอร์


การทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา นานๆ อาจทำ ให้เกิดผลเสียต่อ สุขภาพร่างกายได้ ท่านจึงควรศึกษาคำ แนะนำเพื่อสุขภาพและความปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยง ความเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วย และเพื่อความสะดวงสบายใน การใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของตัวท่านเอง
  
          มีการทดลองพบว่าการนั้งพิมพ์งานอยูกับที่เป้นเวลานานๆ หรือการจัดตั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ใน ตำแหน่งที่ไม่ถูก สุข ลักษณะ อุปนิสัยการทำงานที่ไม่ ถูกต้อง หรือการมีปัญหา ด้านสุขภาพ อาจทำให้มีอาการปวดข้อมือ ปวดเส้น เอ็น หรือมีอาการอักเสบได้


อาการที่อาจเตือนให้ทราบ

  • อาการชา
  • อาการเจ็บ ๆ คัน
  • อาการปวดตุบๆ
  • อาการปวดแสบปวดร้อน
  • อาการแสบ
  • อาการปวดมือ ข้อมือ แขนและคอ
          อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ในเวลาที่คุณกำลังพิมพ์ เอกสารอยู่หรือในเวลา อื่นที่ไม่ได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือ แม้ในเวลา กลางคืน หากคุณมีอาการ ข้างต้นหรือมีอาการ  อื่นที่คิดว่าน่าจะเนื่องมาจากการใช้คอมพิวเตร์ คุณควร ปรึกษาแพทย์ทันที ดัวนั้น คำแนะนำเหล่านี้จะอธิบายถึง วิธีการจัดวางเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่ถูกสุขลักษณะท่านั่งที่ ถูกต้อง และความสัมพันธ์ระหว่าง สุขภาพกับอุปนิสัยการ ทำงานของคุณในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์

การปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน

          สิ่งแวดล้อมต่างๆ ในการทำงานจะเป็นปัจจัยในการตัดสิน สมรรถภาพ ในการทำงานของเรา อีกทั้งยังเป็นตัวบ่งชี้ว่าเรามี นิสัยการทำงานที่ถูกสุขลักาณะ และปลอดภัยหรือไม่ การ ปฎิบัติตามคำแนะนำ จะทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ถูกสูขลักษณะ  ซึ่งจะทำให้เกิดประสิธิภาพ และความปลอดภัยในการทำงาน

วิธีการปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน

  • การจัดวางแป้นพิมพ์ เมาส์ และอุปกรณ์ป้อนข้อมูล
  • การวางและเคลื่อนไหวมือแขน
  • มุมมองภาพที่ปรากฎบนจอ
  • การจัดแสงสว่าง
  • อุปนิสัยในการทำงาน
  • สุขภาพและการออกกำลังกาย
  • 10 ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัย
การจัดวางแป้นพิมพ์ เมาส์ และอุปกรณ์ป้อนข้อมูล
          แป้นพิมพ์ เมาส์ และอุปกรณ์ป้อนข้อมูล ควรจัดวางไว้ในที่ซึ่ง สะดวกในการวางแขนและมือได้สบายๆ ตามธรรมชาติ ไม่เกร็งมาก

  • เลือกสถานที่ซึ่งจะใช้วางอุปกร์ในการทำงานให้มีบริเวณพอ ที่จะวางเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องมือ เครื่องใช้ ต่างๆ
  • จัดวางแป้นพิมพ์ไว้ตรงหน้าคุณเพื่อให้นั่งพิมพ์ได้โดยไม่ต้อง เกร็งไหล่ และสามารถปล่อยให้แขนห้อยลงข้างตัวได้ ตามธรรมชาติ
  • วางเมาส์ไว้ในระดับเดียวกับแป้นพิมพ์

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และท่านั่ง

  • ปรับเฟอร์นิเจอร์ให้คุณนั้งทำงานได้สบาย พอเหมาะ และถ้าเป็น ชนิดที่ปรับระดับความสูงได้ ก็ควนปรับให้สูงพอดี ถ้าปรับไม่ได้ ก็จัดเก้าอี้ให้ เหมาะสมตามต้องการ
  • ปรับความสูงของเก้าอี้ และที่วางอุปกรณ์ใน การ ทำงานเพื่อให้ช่วงแขนตอนล่าง และข้อมือของคุณ ขนาดกับพื้น
  • พยายามวางแขน และมือให้อยุ่ในตำแหน่งที่เหมาะสม อีกทั้ง พยายามอย่าให้เกิดอาการเกร็ง ใต้ขา ใกล้ขอพับ เข่า และน่อง หาที่รองเท้ามาวางเท้าหากเก้าอี้ ของคุณ สูงเกินไปจนคุณ วาง เท้าบนพื้นได้ไม่เต้มฝ่าเท้า
  • ปรับพนักเก้าอี้และนั่งให้ช่วงหลังด้านล่างพิงได้ถนัด เวลาทำงาน
  • เวลาทำงานหัดนั่งตัวตรง ปล่อยตัวตามสบาย อย่าให้ ไหล่งอ หรือพิงไปทางข้างหลังมากเกินไป
วางเครื่องใช้ในการทำงานที่ต้องการหยิบใช่บ่อยๆ ไว้ใกล้มือ
h-pic-5

แขนช่วงล่างและข้อมือควรให้ขนาดกับพื้น

มุมมองภาพที่ปรากฎบนจอ

          หากจัดวางตำแหน่งและมุมมองของจอภาพให้เหมาะสมจะช่วยบรรเทาอาการเมื่อล้าของตา กล้ามเนื้อ และคอได้

  • วางจอภาพให้อยุ่ด้านหน้าตรง ในระยะที่เหมาะสม (18 - 24 นิ้ว)
  • ส่วนบนสุดของจอภาพต้องไม่อยุ่สุงกว่าระดับสายตา หากจอภาพอยู่สูงเกินไปอาจย้ายตัวเครื่องที่รองอยู่ออกไป
  • วางตำแหน่งของจอเพื่อหลีกเบี่ยงแสงสะท้อนจ้าจากจอภาพเข้าตา
  • ปรับเอียงจอภาพให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม อาจเลื่อนจอภาพไปข้างหลังเล็กน้อยหากต้องการ
  • ปรับแต่งความสว่าง และความคมชัดของจอภาพเพื่อเพิ่มความคมชัดของภาพและตัวอักษร
  • หากใช่ที่ช่วยยึดเอกสาร ให้วางที่ช่วยยึดเอกสารใกล้กับจอภาพ และให้อยู่ในระดับเดียวกับจอภาพ
h-pic-5_1
ระดับบนสุดของจอภาพไม่ควรอยู่สูงกว่าระดับสายตา
การวางและเคลื่อนไหวมือ แขน

          ขณะที่ใช้เครื่งคอมพิวเตอร์ทำงานการเคลื่อนไหวมือและแขนอย่างสบายๆ เป็ธรรมชาติจะช่วยป้องกันการเมื่อยล้าของมือ และ แขน  โดยดูจากภาพประกอบ และควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำในขณะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ 

  • เมื่อพิมพ์ข้อความควรให้ปลายแขน และข้อมืออยู่ใน ระดั่บ เดียวกัน และขนานกับพื้น
  • วางข้อศอกในท่าที่สบายๆ ลำตัว อาจแนบข้อศอกชิด ลำตัว แต่ระวังอย่าชิดมากเกินไปจน ข้อศอกกดไป ที่ลำตัว
  • ขณะใช้แป้นพิมพ์ เมาส์ หรืออุปกรณ์ป้อนข้อมูลอื่นๆ ควรให้ข้อมืออยู่ในท่าตามธรรมชาติไม่ควรโค้งงอ ข้อมือ หรือหักข้อมือ
  • หากมีที่พักมือ ควรใช้เพื่อการพักมือเท่านั้น ไม่ควร วางมือ บนที่พัก หรือบนโต๊ะขณะกำลังพิมพ์
  • หมั่นคอยปรับให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วอื่นๆ ให้อยู่ในท่า ที่ ผ่อนคลายเป็นธรรมชาติ
  • ใช้แรงให้น้อยที่สุดในการกดแป้นพิมพ์ หลีกเลี่ยงการ กระแทกนิ้วลงบนแป้นพิมพ์แรงๆ เกินความจำเป็น
  • จับเมาส์หลวมๆ อย่าจับแน่นเกินไป
  • ใช้แรงจากแขนในการเลื่อนเมาส์
 h-pic-3x
การวางมือในท่าที่ถูกต้อง



การจัดแสงสว่าง

          การจัดแสงสว่างที่ถูกต้องจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย สภาพของแสงควรเหมาะสมกับงานที่ ทำอยู่เป็นประจำ ในกรณีที่ต้องทำงานหน้าเครื่องเป้นประจำ สภาพของแสงควรมีลักษณะดังนี้

  • ควรจัดจอให้เกิดแสงสะท้อนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • ถ้าที่ทำงานของคุณมีหน้าต่างควรใช้ม่านเพื่อควบคุม ปริมาณแสงในห้อง
  • จัดวางจอให้อยู่ระหว่าแถวของไฟเพดาน  เพื่อหลีกเลี่ยง แสงสะท้อน
  • ควรทำงานภาะใต้แสงไฟทั่วไป และไฟสำหรับทำงาน โดยเฉพาะ แต่ต้องหลีกเลี่ยงแสงที่มารบกวนสายตา
  • ไม่ควรให้มีแสงไปตกกระทบดดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ เกิดจุดสว่างบนจอภาพ
h-pic-7
จัดแสงเพื่อให้เกินแสงจ้าบนจอภาพน้อยที่สุด

บทความดี ๆ วีรกรรมสุดยิ่งใหญ่ของแม่ ที่ลูกทุกคนควรอ่าน‏

เสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น … มิสค่ะ … ช่วงพักเที่ยงจะมีผู้ปกครองมารอพบสองท่านที่หน้าห้องนะคะ โทรศัพท์แจ้งจากห้องประชาสัมพันธ์ ทำให้มิสอุไรพร นาคะเสถียร ครูประจำชั้น ป.4 รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะจำได้ว่านัดหมายแค่คุณแม่ท่านเดียวเท่านั้นในวันนี้
เอ… ใครละเนี่ย จะมีเรื่องอะไรรึปล่าวนะ เมื่อมาถึงห้อง ครูสาวแทบยกมือรับไหว้จากสุภาพสตรีทั้งสองท่านไม่ทัน หากแต่รูสึกแปลกใจที่เห็นคุณแม่ท่านหนึ่งยกมือไหว้แต่เพียงแขนข้างเดียว
อย่างไรก็ตาม มิสได้เชิญคุณแม่ท่านแรกเข้าไปคุยก่อนตามลำดับการนัดหมาย โดยเก็บงำความแปลกใจไว้ หลังจากคุยกับคุณแม่ท่านแรกเสร็จ จึงได้เชิญคุณแม่อีกท่านเข้ามาคุยในห้องรับรอง
… ภาพแรกที่ได้เห็นชัด ๆ ทำให้ครูสาวตกใจเล็กน้อย แขนซ้ายของคุณแม่เป็นแขนเทียม คุณแม่มาปรึกษาเรื่องการเรียนของลูก เพราะไม่ได้มาในวันนัดพบผู้ปกครองประจำปี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ลูกเขาไม่อยากให้มา เขาบอกว่าอายพื่อนที่แม่ใส่แขนเทียม กลัวโดนเพื่อนล้อ ว่า แม่แขนเดียว แม่เป็นหุ่นยนต์หรอ อะไรนี่นะคะ เลยไม่ได้มา น้ำเสียงคุณแม่แฝงแววเอ็นดูมากกว่าที่จะโกรธหรือไม่พอใจ
มิสอุไรพร ขออนุญาตซักถามเกี่ยวกับสาเหตุที่คุณแม่ต้องใส่แขนเทียม เมื่อได้ทราบความจริง ครูสาวตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องจัดการเรื่องที่ลูกไม่ยอมรับและไม่เข้าใจแม่ หากปล่อยเรื่องนี้ไป… จะเป็นตราบาปอันหนักยิ่งติดตัวเด็กไปภายหน้า ทั้งตัวลูกชายและคนที่ล้อเพื่อนที่ล้อเพื่อนด้วย
ช่วงเย็นวันนั้นมีชั่วโมงลูกเสือแต่ฝนตกหนัก มิสอุไรพร จึงได้โอกาสนำเรื่องนี้มาเล่าให้นักเรียนฟัง เรื่องราวที่ว่านั้น ความดังนี้…
วันที่ 21 สิงหาคม 2536 หลังวันแม่ไม่กี่วัน… ครอบครัวหนึ่งเดินทางไปเที่ยวนากุ้งที่จังหวัดสตูล ประกอบด้วย พ่อแม่และลูกชายอีกสามคน พวกเขาเดินชมนากุ้งไปตามทางเดินซึ่งเป็นคัดดินเล็ก ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ โดยมีคุณพ่อเดินนำหน้ากับลูกชายคนโตสองคน ส่วนคุณแม่เดินตามหลังกับลูกชายคนเล็ก
ทางเดินที่เป็นคันดินนั้นมีการแบ่งเป็นท้องร่องเพื่อติดตั้งระหัดวิดน้ำซึ่ง มีใบพัดเหล็กสูงจากคันดินราว 25 ซม. คุณพ่อและลูกชายคนโตสองคนข้ามท้องร่องแล้วเดินนำต่อไปข้างหน้า ไม่มีใครฉุกคิดระวังถึงเหตุร้าย แต่แล้วลุกชายคนเล็กกลับก้าวพลาดล้มลงไปในท้องร่อง ขากางเกงเข้าไปติดกับร่องของระหัดวิดน้ำที่กำลังหมุนอยู่และฉุดขาของลูกทั้ง สองข้างเข้าไปในใบพัดเหล็ก ถ้าเป็นพวกคุณ คุณจะทำอย่างไร …
มิส หยุดเรื่องไว้ เพื่อซักถาม มองหน้านักเรียนทั้งห้องที่นั่งเงียบกริบ หน้าซีด โดยเฉพาะลูกชายของคุณแม่ท่านนั้น
แต่นักเรียนรู้มั้ยว่า คุณแม่ท่านตัดสินใจอย่างไร คุณแม่ไม่ยอมเสียเวลาคิดอะไรเลยท่านรีบดึงตัวลูกเอาไว้ แล้วเอาแขนซ้ายที่ว่างอยู่เข้าไปขวางใบพัดไว้ก่อน…
ใบพัดหมุนแขนของคุณแม่เข้าไป … คนงานที่เห็นเหตุการณ์จึงรีบปิดเครื่องแต่แรงเฉื่อยยังทำให้ใบพัดหมุนด้วย กำลังรง … แรงเสียจนกระชากแขนซ้านคุณแม่ ขาดสะบั้นลง !
คุณแม่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสสติสัมปชัญญะดับวูบลงในทันที ท้องร่องบริเวณนั้นแดงฉานไปด้วยเลือด … เลือดของแม่ …
ใบพัดเหล็กยังหมุนต่อไปอีกเล็กน้อยและบดเอาขาทั้งสองข้างของลูกชายคนเล็กจน กระดูกหัก แต่ไม่ขาด ไม่ขาดเพราะ… เพราะแขนซ้ายของแม่ขาดแทน .. ไม่ขาด เพราะแม้ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ มือขวาของแม่ยังยึดตัวลูกเอาไว้แน่น … ไม่ยอมปล่อย …
คุณพ่อและลูกคนโตทั้งสองคนหันกลับมามองตามเสียงตะโกน เอะอะโวยวายของคนงาน พร้อม ๆ กับเสียงกรีดร้องของคุณแม่ ภาพที่เห็นทำให้พวกเขาช๊อกแทบสิ้นสติ … คุณพ่อรีบกระโจนพรวดเดียวถึงตัวแม่และลูกน้อย …
แต่… มันสายเกินไปแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้ คือ รีบพาทั้งสองส่งโรงพยาบาลทันที ผลการรักษา คุณแม่ต้องใส่แขนเทียมแทนที่ขาดไป ส่วนลูกชายคนเล็ก ที่ขาหักต้องพักฟื้นนานราวสามเดือน จึงสามารถเดินได้ เป็นปกติ
มิสอุไรพร กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วถามว่า นักเรียนคิดว่าคุณแม่ท่านนี้กล้าหาญไหมคะ เด็ก ๆ พากันตอบเป็นเสียงเดียวกันพลางพยักหน้า หลาย ๆ คนยังหน้าซีดเซียว เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ตามที่ครูเล่า
มิส มองหน้าลูกชายของคุณแม่แล้วบอกว่า … นักเรียนทราบไหมว่าคุณแม่ท่านนั้นเป็นคุณแนคุณแม่ของเพื่อนเราในห้องนี้เอง ไหน ใครเป็นลูกของคุณแม่ท่านนั้น ยืนขึ้นให้เพื่อนเห็นหน่อยสิ… เด็กคนนั้นยืนขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือของเพื่อน ๆ ทั้งห้อง “วันนี้เมื่อคุณกลับไปบ้าน มิสฝากเรียนคุณแม่ด้วยว่า พวกเราชื่นชมและยกย่องท่านมาก ๆ”
มิสได้ทราบว่ามีหลาย ๆ คนไปล้อเลียนเพื่อน ไหนคนไหนบ้างคะที่เคยล้อคุณแม่เขา ถ้ามี เราลูกผู้ชายต้องกล้ารับค่ะ
มีนักเรียน 3-4 คน ยืนขึ้น ใบหน้าของแต่ละคนรู้สึกสำนึกผิด แล้วมิสก็ถามว่า ดีมากนักเรียน ตอนนี้คุณคงมีอะไรอยากจะพูดกับเพื่อนใช่มั๊ยคะ
เด็กชายกลุ่มนั้นเดินเข้าไปโอบกอดคอ แล้วกล่าวขอโทษเพื่อนด้วยความจริงใจ ครูสาวน้ำตาคลอเบ้า ยืนมองภาพนั้นด้วยความปลาบปลื้มใจ
ใครเล่า … จะเข้าใจความเจ็บช้ำ ขมขื่นในหัวใจเล็ก ๆ ของเด็กชายคนหนึ่ง ที่ถูกเพื่อนล้อเลียนประสาเด็กไม่ทันคิด
หากบัดนี้ … ความรักของแม่และน้ำใจของเพื่อน ๆ ได้สลายปมด้อยในใจของเขาไปจนสิ้น เหลือเพียงความรักและความภาคภูมิใจในตัวคุณแม่เท่านั้น
เมื่อหมดชั่วโมงเรียน มิสได้เรียกลูกชายคุณแม่ เข้าไปคุยอีกครั้ง “วันนี้เรามีอะไรในใจที่คิดว่าควรพูดกับคุณแม่ม้ยคะ” เด็กคนนั้นนิ่งคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบเสียงสั่นปนสะอื้นว่า ….
“ผม… ผม จะไปขอโทษคุณแม่ แล้ว… บอกคุณแม่ว่า ผมรักคุณแม่มากที่สุดในโลกเลยครับ”

น.ส.สุนิสา จันทชาติ ICM 5150110137. ขับเคลื่อนโดย Blogger.